ตอนที่ 2: ประเภทของดินและแหล่งดินที่ใช้ทำเซรามิก

Pottery clay with kid

การเลือกดินเป็นขั้นตอนสำคัญอันดับต้น ๆ ในการทำงานเซรามิก เพราะลักษณะของดินมีผลโดยตรงต่อการปั้น การตกแต่ง และการเผา ดินแต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัว แตกต่างกันทั้งด้านความเหนียว ความแข็งแรง สี และอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเผา

ในบทนี้ เราจะพาไปรู้จักประเภทของดินเซรามิกที่นิยมใช้ แหล่งดินธรรมชาติ และการเลือกใช้ดินให้เหมาะกับเทคนิคต่าง ๆ

Big pottery pot

ดินเอิร์ธเธินแวร์ (Earthenware)

  • เผาที่อุณหภูมิต่ำ (ประมาณ 1000–1100°C)
  • เนื้อดินหยาบ สีแดงหรือส้ม น้ำซึมผ่านได้หากไม่เคลือบ
  • เหมาะกับงานตกแต่ง งานศิลป์ และงานที่ไม่ต้องรับแรงมาก
  • ง่ายต่อการขึ้นรูปด้วยมือ เหมาะกับผู้เริ่มต้น และเทคนิคตกแต่งแบบ handbuilding

ดินสโตนแวร์ (Stoneware)

  • เผาที่อุณหภูมิปานกลางถึงสูง (ประมาณ 1200–1300°C)
  • เนื้อแน่น สีเทา น้ำตาล หรือครีม แข็งแรง กันน้ำได้แม้ไม่เคลือบ
  • นิยมใช้ในภาชนะใช้งานจริง เช่น จาน ชาม ถ้วยกาแฟ
  • เหมาะสำหรับงานแป้นหมุน และเครื่องใช้ที่ต้องการความทนทาน
blue and white porecelain plate set

ดินพอร์ซเลน (Porcelain)

  • เผาที่อุณหภูมิสูง (ประมาณ 1250–1400°C)
  • เนื้อขาว ละเอียดมาก กึ่งโปร่งแสง หลังเผาแข็งมาก
  • เหมาะกับงานที่ต้องการความประณีต เช่น ของตกแต่ง หรือเครื่องใช้ชั้นสูง
  • ต้องใช้ความชำนาญสูงในการปั้นเพราะมีความเหนียวน้อย

🔍 เกร็ดความรู้: ความแตกต่างระหว่าง Porcelain กับ Bone China

Bone China เป็นเซรามิกชนิดพิเศษที่มีส่วนผสมของกระดูกสัตว์เผา (Bone Ash) ประมาณ 30–45% ทำให้เนื้อบางเบา โปร่งแสง และทนแรงกระแทกได้ดี โดยปกติจะเผาที่อุณหภูมิ 1200–1250°C ซึ่งต่ำกว่า Porcelain เล็กน้อย แม้จะคล้ายกัน แต่ Bone China มีเนื้อสัมผัสและความแข็งแรงในลักษณะเฉพาะ เหมาะกับการผลิตถ้วยชาชั้นสูงและเครื่องใช้ fine dining ในขณะที่ Porcelain ปกติจะใช้ในของตกแต่งหรือเครื่องใช้ทั่วไปที่เน้นความสวยงามละเอียด

Ball clay ceramics supplies

ดินบอลเคลย์ (Ball Clay)

  • สีเทาอ่อนถึงเข้ม เนื้อละเอียดมาก ยืดหยุ่นสูง
  • Plasticity ดีเยี่ยม ใช้เพิ่มความเหนียวในสูตรดินอื่น ๆ
  • มักผสมกับ Kaolin เพื่อให้ดิน Porcelain ขึ้นรูปได้ง่ายขึ้น
  • ไม่ใช้เดี่ยว ๆ เพราะหดตัวสูงและเผาแล้วเปราะ
Fire clay bricks for pottery kiln

ดินไฟร์เคลย์ (Fire Clay)

  • สีเทาเข้ม–น้ำตาล เนื้อหยาบ มักมีจุดแร่
  • ทนความร้อนสูง ใช้ในงานเตา อิฐทนไฟ หรือผสมในสูตรดินสโตนแวร์
Kaolin ceramic supplies

ดินขาว (Kaolin / China Clay)

  • สีขาวนวล บริสุทธิ์ จุดหลอมสูง ไม่เสียรูปง่าย
  • เป็นฐานของดินพอร์ซเลนและ Bone China
  • ต้องผสมกับ Ball Clay เพื่อเพิ่ม plasticity
Thai local clay ดินพื้นบ้านของไทย ดินเกาะเกร็ด

ดินแดงพื้นบ้าน (Local Red Clay)

  • พบได้ทั่วไปในไทย เช่น ราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม
  • มักใช้ในงานหัตถกรรมพื้นบ้าน เช่น กระถาง แจกัน เตาฟืน
  • เผาที่อุณหภูมิต่ำ (800–1000°C) สีแดงจัด มีความพรุนสูง ต้องเคลือบเพื่อกันน้ำ

ดินปากเกร็ด

  • เป็นดินเหนียวแดงจากอำเภอปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขุดได้จากแม่น้ำเจ้าพระยา
  • มีความเหนียวสูง เหมาะกับการปั้นมือแบบพื้นบ้าน
  • เผาที่อุณหภูมิต่ำ (ประมาณ 900–1000°C) ได้เนื้อแดงจัด หยาบ และพรุน
  • ใช้ในงานเครื่องปั้นดินเผาท้องถิ่น เช่น หม้อ กระถาง เครื่องใช้บ้าน ๆ
  • เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชนมอญเกาะเกร็ด และยังใช้งานจริงในปัจจุบัน

แหล่งดินธรรมชาติในประเทศไทย

ประเทศไทยมีแหล่งดินที่เหมาะกับการทำเซรามิกหลายพื้นที่ เช่น

  • ลำปาง: แหล่งดินขาวคุณภาพดี ใช้ทำเซรามิกเชิงพาณิชย์
  • สระบุรี: แหล่งดินแดงธรรมชาติ ใช้ในงานพื้นบ้านและอุตสาหกรรม
  • ราชบุรี: ดินผสมดี เหมาะกับงานหัตถกรรมและสตูดิโอเซรามิก

การเลือกใช้ดินให้เหมาะกับเทคนิค

ประเทศไทยมีแหล่งดินที่เหมาะกับการทำเซรามิกหลายพื้นที่ เช่น

  • ถ้าเน้น handbuilding: ดินที่มีความเหนียวและไม่แห้งเร็วเกินไปจะเหมาะ เช่น สโตนแวร์ หรือดินผสมกับบอลเคลย์
  • ถ้าใช้แป้นหมุน (wheel throwing): ดินต้องมีความสมดุลระหว่างความเหนียวและความนิ่ง เช่น ดินสโตนแวร์เนื้อละเอียด
  • ถ้าเป็น slip casting: ใช้ดินพอร์ซเลนหรือดินสูตรเฉพาะที่เหลวและแห้งเร็วโดยไม่แตกร้าว

บทสรุป

การเข้าใจคุณสมบัติของดินแต่ละชนิด รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการปรับสูตร จะช่วยให้เราสามารถเลือกใช้ดินได้เหมาะสมกับรูปแบบงานและเทคนิคที่ใช้ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสู่การสร้างสรรค์งานเซรามิกที่มีคุณภาพ

ในบทต่อไป เราจะพาไปเรียนรู้เรื่อง “การเตรียมดิน” ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญไม่แพ้กัน เช่น การนวดดิน (wedging), การหมักดิน และการรีไซเคิลดินที่เหลือใช้

Scroll to Top